วันนี้ (19 พ.ค.2568) ดร.จุฬา สุขมานพ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) ร่วมกับ ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) เพื่อขับเคลื่อนโครงการ “ศูนย์กีฬานานาชาติ จังหวัดชลบุรี” ในพื้นที่โครงการศูนย์ธุรกิจ EEC และเมืองใหม่น่าอยู่อัจฉริยะ (EEC Capital City หรือ EECiti) โดยมีคณะผู้บริหารจากทั้งสองหน่วยงานร่วมเป็นสักขีพยาน เพื่อร่วมกันผลักดันให้เกิดโครงการศูนย์ฝึกซ้อมและแข่งขันกีฬาระดับโลก รองรับการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันมหกรรมกีฬาระดับนานาชาติ ส่งเสริมสุขภาวะและการรักษาสุขภาพของประชาชน โดยลงนาม MOU ณ อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา การกีฬาแห่งประเทศไทย
ทั้งนี้ การกีฬาแห่งประเทศไทย ได้จัดทำโครงการศูนย์กีฬานานาชาติ ที่จะมีมาตรฐานระดับโลก และเป็นไปตามมาตรฐานที่สหพันธ์กีฬานานาชาติกำหนด บนเนื้อที่ประมาณ 1,500 ไร่ ภายในโครงการ EECiti ตำบลห้วยใหญ่อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี เพื่อเป็นศูนย์กลางแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติ และสามารถรองรับการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันระดับนานาชาติ รวมถึงเป็นศูนย์กลางในการส่งเสริมสุขภาพและการรักษาสุขภาพของประชาชน และตอบสนองนโยบายตามแผนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติและยุทธศาสตร์ชาติ ที่จะพัฒนาการกีฬาเพื่อความเป็นเลิศสู่ระดับนานาชาติ รวมถึงการต่อยอดการกีฬา สู่ระดับอาชีพ และสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจอุตสาหกรรมการกีฬาให้กับประเทศ ด้วยการมีสปอร์ตคอมเพล็กซ์ ที่สามารถใช้สำหรับจัดการแข่งขันกีฬา อีเวนท์เทศกาลขนาดใหญ่คอนเสิร์ต และยังใช้งานได้อีกหลายวัตถุประสงค์ รวมถึงมีศูนย์การฝึกซ้อมกีฬา ศูนย์เวชศาสตร์ฟื้นฟูและเสริมสร้างสมรรถภาพนักกีฬา ศูนย์นวัตกรรมวิทยาศาสตร์การกีฬาระดับโลกสำหรับให้บริการทางการกีฬาอื่น ๆ ด้วย
ดร.จุฬา สุขมานพ เลขาธิการ สกพอ. กล่าวว่า การลงนามความร่วมมือฯ ในวันนี้ ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ สกพอ. จะเชื่อมประสานกับ กกท. เพื่อเดินหน้าโครงการก่อสร้างศูนย์กีฬานานาชาติ ที่จะช่วยส่งเสริมการพัฒนาระบบนิเวศ ของความเป็นเมืองน่าอยู่ให้ได้มาตรฐานระดับสากล ด้วยการผลักดันให้เกิดการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านกีฬาพื้นที่สีเขียวที่มีความยั่งยืน และสามารถรองรับการจัดมหกรรมกีฬาระดับนานาชาติในอนาคต ซึ่งจะสนับสนุนระบบนิเวศทางธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมเป้าหมายพิเศษภายในโครงการ EECiti เพื่อดึงดูดนักลงทุนและประชากรภายใต้แนวคิดการพัฒนาที่ยั่งยืน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งคาดว่าจะมีผู้เข้ามาอยู่อาศัยประมาณ 3.5 แสนคนสร้างงาน 2 แสนตำแหน่ง ในระยะเวลา 10 ปี เป็นเมืองน่าอยู่อัจฉริยะ 1 ใน 10 ของโลก ในปี 2580 โดยโครงการ EECiti มีพื้นที่รวมประมาณ 15,000 ไร่ ยังสามารถรองรับโครงการที่สำคัญๆ เช่น โครงการพัฒนาอุตสาหกรรมสีเขียว ร่วมกับ การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เพื่อเตรียมพื้นที่รองรับการลงทุนเทคโนโลยีสีเขียวและเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular) ที่มีความสนใจต้องการลงทุนในพื้นที่ อีอีซี ต่อไป
ที่มา
https://www.eeco.or.th/th/news/3059?fbclid=IwY2xjawKc6YdleHRuA2FlbQIxMQABHqEoFbfPhn3mJ6T6n2p3gLmWCaEHgI8axRimDVX4NcjmVEVcl_8QBGdnFVbn_aem_BdBYOqnutvGHJ76EK7mjZg
เตรียมลุ้นสปอร์ตคอมเพล็ก80000ที่นั่ง บนพื้นที่EEC
ทั้งนี้ การกีฬาแห่งประเทศไทย ได้จัดทำโครงการศูนย์กีฬานานาชาติ ที่จะมีมาตรฐานระดับโลก และเป็นไปตามมาตรฐานที่สหพันธ์กีฬานานาชาติกำหนด บนเนื้อที่ประมาณ 1,500 ไร่ ภายในโครงการ EECiti ตำบลห้วยใหญ่อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี เพื่อเป็นศูนย์กลางแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติ และสามารถรองรับการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันระดับนานาชาติ รวมถึงเป็นศูนย์กลางในการส่งเสริมสุขภาพและการรักษาสุขภาพของประชาชน และตอบสนองนโยบายตามแผนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติและยุทธศาสตร์ชาติ ที่จะพัฒนาการกีฬาเพื่อความเป็นเลิศสู่ระดับนานาชาติ รวมถึงการต่อยอดการกีฬา สู่ระดับอาชีพ และสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจอุตสาหกรรมการกีฬาให้กับประเทศ ด้วยการมีสปอร์ตคอมเพล็กซ์ ที่สามารถใช้สำหรับจัดการแข่งขันกีฬา อีเวนท์เทศกาลขนาดใหญ่คอนเสิร์ต และยังใช้งานได้อีกหลายวัตถุประสงค์ รวมถึงมีศูนย์การฝึกซ้อมกีฬา ศูนย์เวชศาสตร์ฟื้นฟูและเสริมสร้างสมรรถภาพนักกีฬา ศูนย์นวัตกรรมวิทยาศาสตร์การกีฬาระดับโลกสำหรับให้บริการทางการกีฬาอื่น ๆ ด้วย
ดร.จุฬา สุขมานพ เลขาธิการ สกพอ. กล่าวว่า การลงนามความร่วมมือฯ ในวันนี้ ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ สกพอ. จะเชื่อมประสานกับ กกท. เพื่อเดินหน้าโครงการก่อสร้างศูนย์กีฬานานาชาติ ที่จะช่วยส่งเสริมการพัฒนาระบบนิเวศ ของความเป็นเมืองน่าอยู่ให้ได้มาตรฐานระดับสากล ด้วยการผลักดันให้เกิดการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านกีฬาพื้นที่สีเขียวที่มีความยั่งยืน และสามารถรองรับการจัดมหกรรมกีฬาระดับนานาชาติในอนาคต ซึ่งจะสนับสนุนระบบนิเวศทางธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมเป้าหมายพิเศษภายในโครงการ EECiti เพื่อดึงดูดนักลงทุนและประชากรภายใต้แนวคิดการพัฒนาที่ยั่งยืน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งคาดว่าจะมีผู้เข้ามาอยู่อาศัยประมาณ 3.5 แสนคนสร้างงาน 2 แสนตำแหน่ง ในระยะเวลา 10 ปี เป็นเมืองน่าอยู่อัจฉริยะ 1 ใน 10 ของโลก ในปี 2580 โดยโครงการ EECiti มีพื้นที่รวมประมาณ 15,000 ไร่ ยังสามารถรองรับโครงการที่สำคัญๆ เช่น โครงการพัฒนาอุตสาหกรรมสีเขียว ร่วมกับ การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เพื่อเตรียมพื้นที่รองรับการลงทุนเทคโนโลยีสีเขียวและเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular) ที่มีความสนใจต้องการลงทุนในพื้นที่ อีอีซี ต่อไป
ที่มา https://www.eeco.or.th/th/news/3059?fbclid=IwY2xjawKc6YdleHRuA2FlbQIxMQABHqEoFbfPhn3mJ6T6n2p3gLmWCaEHgI8axRimDVX4NcjmVEVcl_8QBGdnFVbn_aem_BdBYOqnutvGHJ76EK7mjZg